ตามประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่อง เงื่อนไขในการอนุญาตให้อากาศยานทำการบินเข้าออกประเทศไทย พ.ศ. 2564 ประกาศ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 และประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่อง เงื่อนไขในการอนุญาตให้อากาศยานทำการบินเข้าออกประเทศไทย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2564 ประกาศ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยขอแจ้งให้ทราบว่า สำหรับอากาศยานทำการบินในเที่ยวบินระหว่างประเทศที่มีผู้โดยสารถ่ายลำหรือเปลี่ยนลำ (International Transit/ Transfer Flight) และเที่ยวบินระหว่างประเทศที่มีผู้โดยสารผ่านลำหรือเปลี่ยนลำไปยังจังหวัดนำร่องด้านการท่องเที่ยว (Transit/Transfer Passenger Flight to SANDBOX) ให้ยึดตามแนวทางปฏิบัติ ดังนี้
1. เที่ยวบินระหว่างประเทศที่มีผู้โดยสารถ่ายลำหรือเปลี่ยนลำ (International Transit/Transfer Flight)
1.1 ผู้โดยสารต้นทางจะต้องมีใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันว่าไม่มีเชื้อโควิด –19 (Medical certificate with a laboratory result indicating that COVID – 19 is not detected) โดยวิธี RT-PCR โดยมีระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง หรือหลักฐานรับรองการได้รับวัคซีน (Certificate of Vaccination) ครบตามเกณฑ์ที่ผู้ผลิตวัคซีนกำหนด และกรมธรรม์ประกันภัย (Insurance) ที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพและรักษาพยาบาล รวมทั้งกรณีโรคโควิด – 19 ในระหว่างอยู่ในราชอาณาจักร ในวงเงินไม่น้อยกว่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ (สำหรับผู้มีสัญชาติไทยไม่ใช้เอกสารกรมธรรม์ประกันภัย) โดยผู้ดำเนินการเดินอากาศจะต้องตรวจสอบเอกสารสำคัญของผู้โดยสารข้างต้น ก่อนออกบัตรโดยสาร
1.2 กำหนด Seal route โดยจัดพื้นที่เฉพาะสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางมาถึงท่าอากาศยานไม่ให้ออกนอกพื้นที่ที่กำหนดบริเวณ Concourse E ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดังนี้
ก. ให้ผู้โดยสารลงจากเครื่องเข้า Gate E10 ผ่านกระบวนการตรวจค้นเพื่อรักษาความปลอดภัย และขึ้นเครื่องที่ Gate E9 หรือขึ้นรถบัสไปหลุมจอดระยะไกล (Remote Parking Stand) โดยไม่ให้ปะปนกับผู้โดยสารอื่น
ข. กรณีเที่ยวบินมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น Gate E5, E7 และ E8 จะเปิดให้บริการเพิ่มเติม ให้ดำเนินการเช่นเดียวกับ ก.
ค. กรณีที่เที่ยวบินเกิดปัญหาทางเทคนิคและต้องลงจอด ให้ดำเนินการเช่นเดียวกับ ก. หรือ ข.
ในกรณีที่ Concourse E อยู่ในระหว่างการซ่อมแซมปรับพื้นผิวลานจอดอากาศยาน ให้ใช้ Concourse F (ต้องประสานกับทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิก่อน) โดยดำเนินการดังนี้
ก. ให้ผู้โดยสารลงจากเครื่อง เข้า Gate F6 ผ่านกระบวนการตรวจค้นเพื่อรักษาความปลอดภัย และขึ้นเครื่องที่ Gate F5 หรือขึ้นรถบัสไปหลุมจอดระยะไกล (Remote Parking Stand) โดยไม่ให้ปะปนกับผู้โดยสารอื่น
ข. กรณีเที่ยวบินมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น Gate F1, F2, F3 และ F4 จะเปิดให้บริการเพิ่มเติม ให้ดำเนินการเช่นเดียวกับ ก.
ค. กรณีที่เที่ยวบินเกิดปัญหาทางเทคนิคและต้องลงจอด ให้ดำเนินการเช่นเดียวกับ ก. หรือ ข.
1.3 การรอในพื้นที่ Transit/Transfer ต้องจัดระยะห่างระหว่างผู้โดยสาร และเน้นย้ำให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา รวมถึงจัดให้มีเจลแอลกอฮอล์ความเข้มข้นไม่น้อยกว่า 70%
1.4 เจ้าหน้าที่ที่เข้าปฏิบัติงานในพื้นที่ Transit/Transfer จะต้องส่วมใส่อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) ทุกครั้งกรณีมีความจำเป็นต้องให้บริการอาหารและเครื่องดื่มในบริเวณที่พักคอย เจ้าหน้าที่สายการบินต้องสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) ดังนี้ หมวกคลุมผม หน้ากากอนามัย หน้ากากป้องกัน (Face Shield)
หรือแว่นตา เสื้อกาวน์ครึ่งตัว ถุงมือ
1.5 หากมีความจำเป็นที่จะต้องให้บริการอาหาร เจ้าหน้าที่สายการบินจะต้องจัดอาหารและเครื่องดื่ม โดยใช้บรรจุภัณฑ์แบบปิด (sealed, pre-packaged containers) และลดการปฏิสัมพันธ์ระหว่างการให้บริการ
ให้มากที่สุด และกำหนดช่วงเวลาในการรับประทานอาหารให้เป็นเวลา
1.6 ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค (Disinfection) พื้นที่และอุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ ตามมาตรฐาน
ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด
1.7 กำหนดเวลา Transit/Transfer ไม่เกิน 12 ชม. หากเกิน 12 ชั่วโมง ด้วยเหตุผลใดๆ เจ้าหน้าที่ต้องนำผู้โดยสารไปพักคอยที่ Gate D3
1.8 ไม่มีการตรวจคัดกรองและไม่มีบริการการตรวจแล็ป COVID-19 ทางห้องปฏิบัติการ ณ จุด Transit/Transfer
ที่ท่าอากาศยาน
1.9 กรณีตรวจพบผู้โดยสารมีอาการหรือมีไข้ ให้สายการบินที่รับขนผู้โดยสารเข้ามาเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ
1.10 หลีกเลี่ยงประเทศต้นทางที่มีความเสี่ยงสูงในการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
1.11 สายการบินที่มีผู้โดยสารถ่ายลำหรือเปลี่ยนลำระหว่างกัน จะต้องดป็นการดำเนินการในลักษณะ Single PNR, Same Booking, Conjunction Ticket หรือมีข้อตกลงล่วงหน้าระหว่างสายการบินในการส่งต่อผู้โดยสารระหว่างกัน รวมไปถึงการรับส่งสัมภาระลงทะเบียนจะต้องเป็น Check Through Baggage หรือมีข้อตกลงในการส่งต่อสัมภาระระหว่างกัน กรณีที่พบว่าผู้โดยสารที่เดินทางมาเพื่อถ่ายลำหรือเปลี่ยนลำไม่สามารถเดินทางต่อไปกับอีกสายการบินได้ ให้สายการบินที่รับขนผู้โดยสารเข้ามาเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ
1.12 ผู้ดำเนินการเดินอากกาศต้องจัดส่งแผนการทำการบินTransit/Transfer มายังสำนักงานการบินพลเรือน แห่งประเทศไทยและศูนย์ควบคุมปฏิบัติการเขตการบิน ทอท. ล่วงหน้า 24 ชั่วโมง ก่อนทำการบิน
2. เที่ยวบินระหว่างประเทศที่มีผู้โดยสารผ่านลำหรือเปลี่ยนลำไปยังจังหวัดนำร่องด้านการท่องเที่ยว (Transit/Transfer Passenger Flight to SANDBOX)
2.1 อากาศยานทำการบินในเที่ยวบินระหว่างประเทศที่มีผู้โดยสารถ่ายลำหรือเปลี่ยนลำไปยังจังหวัดนำร่องด้านการท่องเที่ยว (International Transit/Transfer Flight to SANDBOX) ได้เฉพาะท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมือง
2.2 ผู้ดำเนินการเดินอากาศจะต้องตรวจสอบเอกสารสำคัญของผู้โดยสารดังต่อไปนี้ ก่อนออกบัตรโดยสาร
ก. เอกสารที่รับรองว่าเป็นบุคคลที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรได้ (Certificate of Entry – COE)
ข. ใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันว่าไม่มีเชื้อโควิด –19 (Medical certificate with a laboratory result indicating that COVID – 19 is not detected) โดยวิธี RT-PCR โดยมีระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง
ค. กรมธรรม์ประกันภัย (Insurance) ที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพและรักษาพยาบาลหรือหลักประกันอื่นใดซึ่งรวมถึงกรณีโรคโควิด – 19 ตลอดระยะเวลาที่ผู้เดินทางอยู่ในราชอาณาจักร ในวงเงินไม่น้อยกว่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ
ง. เอกสารหรือหลักฐานรับรองการได้รับวัคซีน (Certificate of Vaccination) ครบตามเกณฑ์ที่ผู้ผลิตวัคซีนกำหนด ซึ่งเป็นวัคซีนที่ได้รับการขึ้นทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยยาหรือได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลกหรือตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 14 วันก่อนออกเดินทาง ทั้งนี้ สำรับผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่ไม่อยู่ในเกณฑ์การได้รับวัคซีน และเดินทางมาพร้อมกับผู้ปกครองหรือผู้ดูแล ให้มีใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันว่าผู้เดินทางไม่มีเชื้อโรคโควิด – 19 (Medical certificate with a laboratory result indicating that COVID – 19 is not detected) โดยวิธี RT-PCR โดยมีระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง
จ. หลักฐานการชำระค่าที่พักและค่าตรวจหาเชื้อโดยวิธี RT-PCR โดยระบุระยะเวลาการเข้าพักไม่น้อยกว่า 14 วัน ในโรงแรมหรือสถานที่พัก ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยกำหนด สำหรับกรณีที่ผู้เดินทางพำนักอยู่ในราชอาณาจักรเป็นเวลาน้อยกว่า 14 วัน ให้มีบัตรโดยสารของสายการบินที่ระบุห้วงระยะเวลาในการเดินทางออกจากราชอาณาจักร หลักฐานการชำระเงินค่าที่พัก และค่าตรวจหาเชื้อโดยวิธี RT-PCR ในห้วงเวลาดังกล่าว
2.3 อากาศยานที่ทำการบินในเที่ยวบินระหว่างประเทศที่มีผู้โดยสารถ่ายลำหรือเปลี่ยนลำไปยังจังหวัดนำร่องด้านการท่องเที่ยว (International Transit/Transfer Flight to SANDBOX) ให้ดำเนินการตามมาตรการควบคุมโรค ดังต่อไปนี้
ก. เที่ยวบินบินตรง (Direct Flight)
กรณีเดินทางเข้าราชอาณาจักรโดยสายการบินที่มีเที่ยวบินตรงมายัง ณ ท่าอากาศยานนานาชาติตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดนำร่องด้านการท่องเที่ยว ให้คัดกรองอาการทางเดินหายใจและวัดไข้ และยื่นเอกสารต่อพนักงานเจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ รวมถึงการดำเนินพิธีการตรวจคนเข้าเมือง ณ ช่องทางเข้าออกระหว่างประเทศ ก่อนเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร
ข. เที่ยวบินที่มีผู้โดยสารผ่านลำ (Transit Flight Same Plane)
ให้คัดกรองอาการทางเดินหายใจและวัดไข้และให้ยื่นเอกสารต่อพนักงานเจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ รวมถึงการดำเนินพิธีการตรวจคนเข้าเมือง ณ ช่องทางเข้าออกระหว่างประเทศหรือในพื้นที่ของท่าอากาศยานจุดหมายปลายทางที่เป็นพื้นที่จังหวัดนำร่องด้านการท่องเที่ยว
ค. เที่ยวบินที่มีผู้โดยสารถ่ายลำ (Transfer Flight)
ให้คัดกรองอาการทางเดินหายใจและวัดไข้และให้ยื่นเอกสารต่อพนักงานเจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ รวมถึงการดำเนินพิธีการตรวจคนเข้าเมือง ณ ช่องทางเข้าออกระหว่างประเทศจุดแรกที่มีการเดินทางเข้ามาภายในราชอาณาจักร ก่อนเดินทางต่อไปยังท่าอากาศยานจุดหมายปลายทางที่เป็นพื้นที่จังหวัดนำร่องด้านการท่องเที่ยว
โดยการทำการบิน ตาม ข. และ ค. จะต้องไม่มีการเปิดขายตั๋วหรือรับขนผู้โดยสารภายในประเทศ
ขึ้นไปปะปนกับผู้โดยสารที่มากับเที่ยวบินดังกล่าว
2.4 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
กำหนด Seal route โดยจัดพื้นที่เฉพาะสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางมาถึงท่าอากาศยานไม่ให้ออกนอกพื้นที่ที่กำหนดบริเวณ Concourse E ดังนี้
ก. ให้ผู้โดยสารลงจากเครื่องเข้า Gate E10 และเดินไปยังด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศกรอกแบบฟอร์ม ต.8 (T8 Form) ผ่านแอปพลิเคชันที่สาธารณสุขกำหนด และแสดงเอกสาร ณ ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ จากนั้นผู้โดยสารจะเข้ารับการตรวจประทับตราโดยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและได้รับการประทับตราอนุญาตในหนังสือเดินทาง ก่อนเข้ากระบวนการตรวจค้นเพื่อรักษาความปลอดภัย ณ จุดตรวจค้น และทำการพักรอบริเวณ Gate D4 ก่อนขึ้นเครื่อง
ข. เจ้าหน้าที่สายการบินจะนำผู้โดยสารไปยังทางออกขึ้นเครื่อง Gate D4 หรือขึ้นรถบัสไปหลุมจอดระยะไกล (Remote Parking Stand) โดยไม่ให้ปะปนกับผู้โดยสารอื่น
ค. กรณีเที่ยวบินขาเข้ามีปริมาณเพิ่มมากขึ้น Gate E5, E7 และ E8 จะเปิดให้บริการเพิ่มเติมให้ดำเนินการเช่นเดียวกับ ก.
ง. กรณีที่เที่ยวบินเกิดปัญหาทางเทคนิคและต้องลงจอด ให้ดำเนินการเช่นเดียวกับ ก. หรือ ข.
ในกรณีที่ Concourse E อยู่ในระหว่างการซ่อมแซมปรับพื้นผิวลานจอดอากาศยาน ให้ใช้ Concourse F โดยดำเนินการให้ประสานกับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
2.5 ท่าอากาศยานดอนเมือง
กำหนด Seal route โดยจัดพื้นที่เฉพาะสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางมาถึงท่าอากาศยานไม่ให้ออกนอกพื้นที่ที่กำหนดบริเวณ อาคาร Pier 3 ดังนี้
ก. อากาศยานจะเข้าจอดที่ประตู 31 และ 33 ผู้โดยสารออกจากเครื่องเดินตามแนวทางเดินผู้โดยสารขาเข้าชั้น 2 เพื่อผ่านกระบวนการของด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ กรอกแบบฟอร์ม ต.8 (T8 Form) ผ่านแอปพลิเคชันที่สาธารณสุขกำหนด และแสดงเอกสารที่เกี่ยวข้อง จากนั้นผู้โดยสารจะเข้ารับการตรวจบัตรโดยสารจากเจ้าหน้าที่สายการบิน ผ่านการประทับตราอนุญาตเข้าเมืองในหนังสือเดินทางโดยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และไปยังจุดตรวจค้นสัมภาระ (Security Check) เพื่อรับการตรวจค้นตัวและสัมภาระติดตัวบริเวณชั้น 2 และขึ้นบันไดเลื่อนไปห้องโถงผู้โดยสารขาออกภายในประเทศชั้น 3 เพื่อไปยังประตูทางออกขึ้นเครื่องหมายเลข 32 และ 34
ข. สำหรับสัมภาระลงทะเบียนจะทำการตรวจค้นที่อาคาร Pier 3 เมื่อทำการตรวจสัมภาระลงทะเบียนแล้วเสร็จ จะถูกนำกลับมาโหลดขึ้นเครื่องที่จอดอยู่ประตู 32 และ 34
2.6 การรอในพื้นที่ Transit/Transfer ต้องจัดระยะห่างระหว่างผู้โดยสาร และเน้นย้ำให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา รวมถึงจัดให้มีเจลแอลกอฮอล์ความเข้มข้นไม่น้อยกว่า 70%
2.7 เจ้าหน้าที่ที่เข้าปฏิบัติงานในพื้นที่ Transit/Transfer จะต้องส่วมใส่อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) ทุกครั้งกรณีมีความจำเป็นต้องให้บริการอาหารและเครื่องดื่มในบริเวณที่พักคอย เจ้าหน้าที่สายการบินต้องสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) ดังนี้ หมวกคลุมผม หน้ากากอนามัย หน้ากากป้องกัน (Face Shield) หรือแว่นตา เสื้อกาวน์ครึ่งตัว ถุงมือ
2.8 ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค (Disinfection) พื้นที่และอุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ ตามมาตรฐานที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด
2.9 กำหนดเวลา Transit/Transfer Flight to SANDBOX ไม่ต่ำกว่า 3 ชม.
2.10 ไม่มีการตรวจคัดกรองและไม่มีบริการการตรวจแล็ป COVID-19 ทางห้องปฏิบัติการ ณ จุด Transit/Transferที่ท่าอากาศยาน
2.11 กรณีตรวจพบผู้โดยสารมีอาการหรือมีไข้ ให้สายการบินที่รับขนผู้โดยสารเข้ามาเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ
2.12 หลีกเลี่ยงประเทศต้นทางที่มีความเสี่ยงสูงในการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
2.13 ผู้ดำเนินการเดินอากาศต้องจัดส่งแผนการทำการบิน Transit/Transfer มายังสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย และศูนย์ควบคุมปฏิบัติการเขตการบิน ล่วงหน้า 24 ชั่วโมง ก่อนทำการบิน