วันที่ 7 สิงหาคม 2566 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมพร้อมคณะ ตรวจเยี่ยมความพร้อมและติดตามความคืบหน้าการเปิดให้บริการอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นโครงการที่ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ได้ดำเนินการก่อสร้างโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารจากเดิม 45 ล้านคนต่อปี เป็น 60 ล้านคนต่อปี และเพื่อบรรเทาความแออัดของผู้โดยสารและเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยการดำเนินการมีความก้าวหน้าตามลำดับ ทั้งนี้ นายสุทธิพงษ์ คงพูล ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ได้เข้าร่วมตรวจเยี่ยมและตรวจความพร้อมในฐานะหน่วยงานกำกับ ดูแล ควบคุม และส่งเสริมการดำเนินงานของกิจการการบินพลเรือนให้เป็นไปตามกฎระเบียบและมาตรฐานสากลก่อนเปิดให้บริการอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แบบ Soft opening ในเดือนกันยายน 2566 นี้
นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะฯ ได้ตรวจความพร้อมตามเส้นทางผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศเพื่อเดินทางไปยังอาคาร SAT-1 โดยใช้บริการระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (Automated People Mover: APM) จากนั้นได้ตรวจเยี่ยมความพร้อมของสิ่งอำนวยความสะดวกตลอดจนระบบต่างๆ ภายในอาคาร SAT-1 และรับฟังความคืบหน้าการดำเนินการก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3
สำหรับอาคาร SAT-1 เป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 สถาปัตยกรรมของตัวอาคารได้ออกแบบให้เข้ากับอาคารผู้โดยสารหลัก (Main Terminal Building) ซึ่งใช้เป็นระบบ Modular ที่ก่อสร้างได้รวดเร็วและใช้วัสดุที่ดูแลรักษาได้ง่าย อีกทั้งยังคำนึงถึงการออกแบบอาคารที่ยั่งยืน (Sustainable Design) เพื่อช่วยให้ประหยัดพลังงาน โดยอาคาร SAT-1 มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 216,000 ตารางเมตร ตัวอาคารมีความสูง 4 ชั้น และมีชั้นใต้ดิน 2 ชั้น
• ชั้น B2 เป็นพื้นที่สำหรับสถานีขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (Automated People Mover Station: APM Station)
• ชั้น B1 เป็นพื้นที่ห้องงานระบบ
• ชั้น G เป็นพื้นที่สำหรับระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าสัมภาระ และพื้นที่สำนักงาน
• ชั้น 2 เป็นพื้นที่สำหรับผู้โดยสารขาเข้าและพื้นที่สำหรับผู้โดยสารเชื่อมต่อเที่ยวบิน
• ชั้น 3 เป็นพื้นที่สำหรับผู้โดยสารขาออก มีพื้นที่พักคอยสำหรับผู้โดยสารรอขึ้นเครื่องเป็นแบบ Open Gate และมีร้านค้าตลอดแนวทางเดิน
• ชั้น 4 เป็นพื้นที่สำหรับห้องรับรองสายการบิน อาคาร SAT-1 มีหลุมจอดประชิดอาคารทั้งหมด 28 หลุมจอด สามารถจอดอากาศยานขนาด Code F (เช่น A380 และ B747-8 เป็นต้น) ได้ 8 หลุมจอด และอากาศยานขนาด Code E (เช่น B747 และ A340 เป็นต้น) ได้ 20 หลุมจอด
อาคาร SAT-1 เชื่อมต่อกับอาคารผู้โดยสารหลัก โดยให้บริการรถไฟฟ้า APM ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าระบบล้อยางแบบไร้คนขับในการรับ-ส่งผู้โดยสาร ใช้ระยะเวลาในการโดยสารรวมถึงระยะเวลาที่ ผู้โดยสารรอรับบริการที่สถานีประมาณ 3 นาทีและสามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 210 คนต่อขบวน สำหรับการก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3 ซึ่งเป็นทางวิ่งที่มีความยาว 4,000 เมตร อยู่ทางด้านทิศตะวันตกของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ขณะนี้มีความคืบหน้าในการก่อสร้างไปแล้วกว่าร้อยละ 73 คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2566 และมีแผนจะเปิดใช้งานในเดือนกรกฎาคม 2567 ซึ่งจะทำให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีประสิทธิภาพในการรองรับปริมาณการจราจรทางอากาศเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 68 เที่ยวบินต่อชั่วโมง เป็น 94 เที่ยวบินต่อชั่วโมง
ท่าอากาศสุวรรณภูมิพร้อมให้บริการอาคาร S AT-1 ควบคู่ไปกับอาคารผู้โดยสารหลัก (Main Terminal Building) รองรับรูปแบบการเดินทางวิถีใหม่ (Transport New Normal) โดยให้ความสำคัญในเรื่องระดับการให้บริการ (Level of Service) เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบาย ปลอดภัย ประทับใจเมื่อใช้บริการและเมื่ออาคาร SAT-1 เปิดให้บริการเต็มรูปแบบ จะเกิดประโยชน์แก่ทุกภาคส่วน ทั้งผู้ใช้บริการ ภาคประชาชน และภาคอุตสาหกรรมการบิน โดยนอกจากจะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจแล้วยังเป็นการเพิ่มขีดความสามารถของท่าอากาศสุวรรณภูมิเพื่อมุ่งสู่การเป็นสนามบินชั้นนำระดับโลกอย่างยั่งยืน